ฟิลเลอร์คาง แก้คางบุ๋ม คางตัด สิ่งที่ควรรู้ก่อนฉีด

ปัจจุบันการปรับรูปหน้าด้วยการฉีดฟิลเลอร์คาง มักเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ และหนุ่มๆ เพราะช่วยแก้ปัญหาคางบุ๋ม คางตัด คางไม่เท่ากัน หน้าไม่ได้สัดส่วน ทำให้หน้าดูเรียว ละมุน ได้สัดส่วนมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถออกแบบรูปคางให้เป็นทรงที่เข้ากับใบหน้าได้อีกด้วย

 

สำหรับคนที่ไม่เคยฉีดฟิลเลอร์มาก่อน อาจจะมีความกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงต่างๆของการฉีดฟิลเลอร์คาง ซึ่งจริงๆแล้ว หากเลือกใช้ ฟิลเลอร์ยี่ห้อที่ได้รับมาตรฐาน ฉีดโดยคุณหมอที่มีประสบการณ์สูง และคลินิกที่ น่าเชื่อถือ ก็สามารถวางใจสำหรับผลข้างเคียงต่างๆได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นจะขอแนะนำข้อที่ควรรู้ทั้งหมดก่อน-หลังการฉีดฟิลเลอร์คางดังนี้

ฟิลเลอร์คาง คืออะไร

ฟิลเลอร์ คือสารไฮยาลูรอนนิค แอซิด (Hyaluronic acid,HA) ซึ่งมีอยู่ในผิวหนังของเราอยู่แล้วตามธรรมชาติ โดยสารตัวนี้ ทำหน้าที่รักษาความชุ่มชื้นบนผิวหนัง พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟิลเลอร์มีลักษณะเป็นเนื้อเจลใส เมื่อนำไปฉีดผิวบริเวณคางหรือร่องบุ๋มที่คาง ร่องจะถูกเติมเต็มให้ดูตื้นขึ้น โดยอาจเติมเต็มในผิวชั้นลึกเพื่อซัพพอร์ตโครงสร้างใต้ผิวหนังบริเวณกระดูกที่มีการกร่อนตัวตามอายุเพิ่มขึ้น และ/หรือเติมเต็มผิวชั้นตื้น เพื่อทดแทนไขมันที่ฝ่อสลายไปตามอายุ ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งทรงของฟิลเลอร์ ให้เหมาะสมกับรูปหน้าของแต่ละบุคคลได้อีกด้วย ซึ่งเป็นฝีมือและประสบการณ์ของแพทย์แต่ละท่าน

ฟิลเลอร์คาง เหมาะกับใคร?

เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาคางสั้น คางตัด คางบุ๋ม คางไม่ได้สัดส่วน สามารถทำได้ทั้งผู้หญิง และผู้ชาย โดนจุดประสงค์หลักจะเป็นการปรับโครงหน้าให้ได้รูปมากขึ้น และถ่ายรูปง่ายขึ้นอีกด้วย

ฟิลเลอร์คาง VS ผ่าตัดคาง เลือกอะไรดี?

การฉีดฟิลเลอร์คางเหมาะกับผู้ที่ไม่อยากพักฟื้นนาน และไม่มีปัญหาคางสั้นมาก ในขณะที่การผ่าตัดเสริมคางจะเหมาะกับคนที่มีปัญหาคางสั้นมาก การผ่าตัดเสริมคางแม้จะอยู่ได้นาน ไม่ต้องเติมเป็นระยะ แต่ถ้าผลลัพธ์การผ่าตัด ไม่ได้รูปทรงที่ต้องการ การแก้ไขคือต้องผ่าตัดใหม่ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง ต้องพักฟื้นใหม่อีกรอบ และอาจจะทิ้งผังผืดใต้ผิว ทิ้งรอยแผลเป็นจากการผ่าตัด ซึ่งยากต่อการแก้ไข แต่การฉีดฟิลเลอร์คาง มีข้อดีคือ สามารถฉีดสลาย เติมแต่ง หรือฉีดใหม่ได้เลย ได้ผลลัพธ์และผิวสัมผัสที่เป็นธรรมชาติ ไม่ต้องกังวลเรื่องการกระทบกระแทกบริเวณคางจากการออกกำลังกาย เพราะฟิลเลอร์ใต้ผิวสามารถคืนรูปได้ อย่างไรก็ตาม หรือควรเข้ามาปรึกษาคุณหมอ และตรวจผิวจริง เพื่อตัดสินใจเลือกหัตถการที่เหมาะสมกับปัญหาคาง และสภาพผิวของแต่ละคน

 

ข้อปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  1. ควรงดยา แอสไพริน, NSAIDs งดวิตามิน และยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว รวมถึง งดการแว็ก
  2. งดแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง
  3. งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การออกกำลังกาย ซาวน่า
  4. หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
  5. แพทย์จะพิจารณาให้กินยาห้ามเลือดหรือฉีดยาลดบวมในบางเคส เพื่อลดความเสี่ยงในการบวมช้ำ อักเสบติดเชื้อ
  6. สามารถแจ้งเพื่อขอทายาชาก่อนฉีดฟิลเลอร์ได้ และหมอจะฉีดยาชาในจุดนั้น ๆ ให้ด้วย

ฉีดฟิลเลอร์คางยี่ห้อไหนดี? อยู่ได้นานไหม?

  1. ยี่ห้อที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์คาง ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง เนื้อแข็ง ไม่ฟู เพื่อให้ปั้นเป็นทรงได้สวย 

    ฟิลเลอร์ Restylane  

    • Restylane Lyft ( ชื่อเดิม Perlane )ー สามารถคงรูปได้ดีที่สุด คงตัว ไม่ฟู อยู่ได้นาน 12 เดือน
    • Restylane Defyne  ー เนื้อเจลแข็งปานกลาง มีความยืดหยุ่นและอุ้มน้ำได้ดี อยู่ได้นาน 18 เดือน
    •  
    • Restylane Classic ー เป็นเนื้อเจลอนุภาคใหญ่ เหมาะสำหรับเติมปริมาตรผิว ระดับปานกลางถึงมาก อยู่ได้นาน 12 เดือน

    ฟิลเลอร์ e.p.t.q. 

    เป็นฟิลเลอร์กลุ่มผสมยาชา ราคาไม่สูง สามารถแบ่งได้ตามรุ่นดังนี้

    • S300 lidocaine ー เป็นรุ่นที่มีเนื้อแข็งปานกลาง ยืดหยุ่นได้ดี เกาะกับผิวได้แน่น ปั้นทรงขึ้นทรงได้สวย อยู่ได้ 9-12 เดือน

    • S500 lidocaine เป็นรุ่นที่มีเนื้อแข็งที่สุด มีความคงตัวและยืดหยุ่นได้ดี เหมาะกับการฉีดเติมเต็มชั้นกระดูก และ ไขมันชั้นลึกที่ยุบตัวไป สามารถใช้เติมเต็มผิวในชั้นลึกได้ อยู่ได้ 12 – 18 เดือน

    ฟิลเลอร์ Neuramis


    • Neuramis Deep เป็นรุ่นที่ไม่มียาชาผสม เนื้อเจลหนืดปานกลาง อิ่มฟู ขึ้นรูปได้ง่าย สามารถนำมาใช้เติมเต็มร่องลึกบนใบหน้าได้หลายจุด 
    • Neuramis lidocaine เป็นรุ่นที่มียาชาผสม มีลีกษณะเนื้อฟิลเลอร์คล้าย ๆ รุ่น Deep เนื้อเจลหนืดปานกลาง อิ่มฟู สามารถช่วยลดความเจ็บปวดขณะฉีดได้
    • Neuramis Volume Lidocaineเนื้อเจลหนืดที่สุด มีความยืดหยุ่น คงตัวได้ดี สามารถนำมาใช้เติมเต็มปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก และมีส่วนผสมของยาชา

ฟิลเลอร์คาง ควรฉีดกี่ซีซี?

ฟิลเลอร์คางส่วนใหญ่จะนิยมฉีด 1-2 ซีซี เพื่อความเนียนสวยเป็นธรรมชาติ เข้ากับรูปหน้า หรือบางเคสที่มีร่องบริเวณรอบๆคางคุณหมอก็จะฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มร่อง เพื่อให้คางดูสมดุล ได้สัดส่วน คางดูละมุนมากขึ้น

ข้อดี-ข้อเสีย ฟิลเลอร์คางมีอะไรบ้าง?

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คาง

  • ไม่ต้องพักฟื้น คางสวยขึ้นทันทีหลังฉีด บางเคสอาจจะมีปัญหาคางช้ำ (รอยเขียว) บ้าง แต่รอยช้ำสามารถหายเองได้ใน 3-7 วัน 
  • รูปทรงฟิลเลอร์คางที่ได้ หากสั้นเกินไปสามารถเติมเพิ่มได้ หากยาวเกินไปสามารถสฉีดสลายบางส่วนออกได้
  • ถ้าฉีดฟิลเลอร์คางด้วยเทคนิคการเสริมกระดูก จะอยู่ได้นาน และเมื่อฟิลเลอร์สลายไป ก็จะสามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ โดยไม่ทำให้เนื้อคางผิดรูป

ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์คาง

  • ฟิลเลอร์คางอยู่ได้แค่ 1-2 ปี ต่อการฉีด 1 ครั้ง

การดูแลรักษาหลังจากฉีดฟิลเลอร์คาง

  1. หลีกเลี่ยงอากาศร้อยหรือเอาหน้าจ่อบริเวณที่ร้อน เช่น เตาหมูกระทะ แนะนำอยู่อากาศเย็นๆ อย่างน้อย 48 ชม.
  2. ควรนอนหัวสูงกว่าหน้าอก โดยการหนุนหมอนที่ศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ ไม่ควรนอนตะแคงในช่วงแรกๆ เพื่อป้องกันการกดทับหน้า
  3. ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำได้มากขึ้น ทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
  4. ควรทานยาที่แพทย์จ่ายให้หลังทำต่อเนื่องจนครบ เพื่อช่วยลดอาการบวม และป้องกันคางติดเชื้อหรือคางอักเสบ
  5. ในบางเคสอาจเกิดอาการคางปวตามรอยในคืนแรกหลังทำ สามารถกินยาแก้ปวดตามอาการได้ตามปกติ

คางเป็นก้อน คางเบี้ยว เพราะฉีดฟิลเลอร์คาง แก้ยังไงดี?

คางเป็นก้อนส่วนใหญ่เกิดจากการที่เลือกใช้ฟิลเลอร์ปลอม หรือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน มีราคาถูก วิธีแก้คือต้องขูดฟิลเลอร์เก่าเอา หรือการผ่าตัดออกเท่านั้น หรือในอีกกรณีคือฉีดเลอร์ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งคางทำให้คางเบี้ยว วิธีแก้คือการฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วย สาร Hyaluronidase ที่มีหน้าที่สลายไฮยาลูรอนิค แอซิกออก เป็นตัวที่ปลอดภัยและสามารถสลายฟิลเลอร์ส่วนเกินออกไปได้ทุกบริเวณที่มีการฉีดฟิลเลอร์  

สรุป

การฉีดฟิลเลอร์นั้นไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด หากเลือกใช้ยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการฉีด การแนะนำการดูแลหลังฉีด ดังนั้น สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อปรับลุคหล่อ-สวย แบบสดใส มั่นใจ และปลอดภัยค่ะ